ทำไมบางคนหาความสุขของตัวเองไม่เจอ

การหาความสุขของตัวเองไม่เจอเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อน เพราะความสุขไม่ใช้สูตรตายตัวที่จะใช้ได้เหมือนกันทุกคน แต่เป็นเรื่องเฉพาะตัวมากๆ จึงทำให้หลายคนมองหาความสุขของตัวเองยังไม่เจอในปัจจุบัน ซึ่งมี 8 สาเหตุหลักๆ สำหรับใครที่มีข้อไหนลองแก้ดูเป็นข้อๆไป แล้วสุดท้ายจะสามารถหาความสุขของตัวเองเจอแน่นอนครับ ไม่ช้าก็เร็วการันตีได้เลย 8 สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่หาความสุขของตัวเองไม่เจอ 1.การตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนหรือไม่สมเหตุสมผล หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า “ทำไมเราถึงไม่รู้สึกมีความสุข” อาจจะเป็นเพราะเราไม่รู้จักตัวเองดีพอหรือไม่เข้าใจสิ่งที่เราต้องการในชีวิต บางคนอาจตั้งเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนหรือยากเกินไป เช่น ต้องประสบความสำเร็จในเรื่องงาน หรือมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของสังคม การตั้งเป้าหมายที่ไม่ตรงกับตัวตนจริง ๆ อาจทำให้เราไม่รู้สึกถึงความสำเร็จ หรือไม่พบความสุขในสิ่งที่ทำ 2.ค่านิยมและความคาดหวังจากสังคม ในสังคมปัจจุบัน ความคาดหวังจากผู้อื่นหรือมาตรฐานทางสังคม เช่น ความสำเร็จในงาน, การแต่งงาน, หรือการมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าไม่สามารถบรรลุความสุขได้เมื่อพวกเขาไม่สามารถทำตามสิ่งเหล่านั้นได้ หรือไม่สามารถทำตามที่สังคมคาดหวัง 3.ภาวะจิตใจและปัญหาทางอารมณ์ บางคนอาจมีภาวะซึมเศร้า, เครียด, หรือความวิตกกังวล ซึ่งทำให้ไม่สามารถรับรู้หรือสัมผัสความสุขได้ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ดี ๆ หรือสิ่งที่สามารถทำให้มีความสุขอยู่รอบตัว อาการเหล่านี้ทำให้มุมมองของเราเปลี่ยนไป จนไม่สามารถเห็นความสุขในสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว 4.การขาดการเชื่อมโยงกับตัวเอง บางคนอาจไม่ได้ใช้เวลาค้นหาความต้องการหรือความชอบของตัวเองอย่างจริงจัง การไม่รู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้งทำให้ไม่สามารถตัดสินใจในสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้ หลายครั้งเราติดอยู่ในวงจรของการทำสิ่งที่คิดว่า “ควรจะทำ” โดยไม่พิจารณาถึงความรู้สึกหรือความต้องการภายในตัวเอง 5.การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เราไม่รู้สึกพอใจกับชีวิตของตัวเอง เมื่อเราเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จหรือมีสิ่งที่ดูเหมือนจะทำให้พวกเขามีความสุข ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกว่าเราเองยังขาดสิ่งนั้นอยู่ จนไม่สามารถหาความสุขในสิ่งที่ตัวเองมีได้ 6.ความกลัวหรือความไม่มั่นใจในตัวเอง …

ทำไมเราถึงหัวเราะเวลาเครียด?

บางครั้งที่เราหัวเราะก็ไม่ได้มาจากความตลก หรือ ดีใจ เสมอไปครับ เพราะถ้าหากสังเกตดีๆแล้ว เวลาที่เราเครียด หรือ เขิน เราก็จะหัวเราะออกมาเองโดยอัตโนมัติทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่เรื่องตลกซะทีเดียว มันเป็นเพราะอะไรกันนะ? หัวเราะเวลาเครียดมีหลักการวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว การหัวเราะเป็นกลไกป้องกันตัว การหัวเราะเมื่อเราเขินหรือเครียดสามารถถือเป็นกลไกหนึ่งในการจัดการกับความเครียด (Coping Mechanism) ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจหรือไม่มั่นใจในตัวเอง การหัวเราะจึงกลายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ความรู้สึกเหล่านั้นเบาลง ตัวอย่าง: หากเราพูดอะไรผิดพลาดในที่สาธารณะหรือพูดกับคนที่เราชอบ การหัวเราะอาจเกิดขึ้นเพื่อบรรเทาความอึดอัดหรือทำให้สถานการณ์ดูเบาลง แม้ว่าจะไม่มีอะไรตลกเลยก็ตาม การหัวเราะเป็นการลดความเครียด การหัวเราะช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีที่ดีในสมอง เช่น เอนโดรฟิน (endorphins) ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับการยาชา ช่วยลดความเจ็บปวดและความเครียด นอกจากนี้ยังช่วยลดการหลั่งสารเคมีอย่าง คอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเครียด ดังนั้น แม้ในขณะที่เรารู้สึกเครียด การหัวเราะก็สามารถทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ ความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์กับร่างกาย เมื่อเรารู้สึกเขินหรือเครียด ร่างกายของเราจะเข้าสู่โหมด “ต่อสู้หรือหนี” (fight or flight response) ซึ่งเป็นการตอบสนองทางสรีรวิทยาที่ทำให้ร่างกายพร้อมที่จะรับมือกับความเครียด แต่ในบางกรณีร่างกายอาจไม่สามารถเลือกทางเลือกที่ชัดเจนได้ เช่น ไม่สามารถตอบโต้หรือหลบหนีได้ทันที การหัวเราะในสถานการณ์นี้จึงสามารถเป็นการระบายพลังงานทางอารมณ์ออกมา และทำให้ร่างกายคลายความตึงเครียดได้ การหัวเราะเป็นการสื่อสารที่ไม่ได้ตั้งใจ การหัวเราะในสถานการณ์ที่เขินหรือเครียดยังสามารถถือเป็นการสื่อสารไม่ตั้งใจจากร่างกายที่ใช้เพื่อบรรเทาความรู้สึกของตัวเอง โดยเป็นการแสดงออกถึงความพยายามในการควบคุมอารมณ์ ในบางกรณีมันเป็นการ …

อยู่คนเดียวให้เป็น แล้วชีวิตจะดีขึ้นยังไง

ในสังคมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความเร่งรีบ หลายคนอาจจะรู้สึกกดดันจากการต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนตลอดเวลา แต่การที่เราจะ อยู่คนเดียวให้เป็น นั้น ไม่ได้หมายถึงการแยกตัวออกจากสังคมไปเลย แต่คือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองให้ได้และสามารถจัดการชีวิตอย่างมีคุณค่า และสร้างความสุขได้แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ข้างๆ การอยู่คนเดียวมีข้อดีหลายประการที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น แต่ยังเป็นโอกาสให้เราพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนความสุขในชีวิตได้มากขึ้นอีกด้วย 1. ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น การอยู่คนเดียวคือโอกาสที่ดีที่สุดในการเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เพราะเมื่อไม่มีใครมาแทรกแซง เราจะมีเวลาในการคิดและทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้มากขึ้น คุณจะได้พบกับสิ่งที่คุณชอบหรือไม่ชอบ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข หรืออะไรที่ทำให้คุณเครียดและวิตกกังวล ทุกๆ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองจะช่วยให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น และรู้จักการจัดการอารมณ์และความคิดให้ดีขึ้น 2. การพัฒนาทักษะใหม่ๆ การอยู่คนเดียวจะทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือพัฒนาทักษะที่คุณสนใจ โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความต้องการของคนอื่น อาจจะเป็นการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ การฝึกฝนทักษะการทำอาหาร หรือการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับการทำงานอย่างเช่นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ เมื่อคุณมีเวลามากพอในการฝึกฝน ก็จะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองและมีโอกาสสร้างความสามารถใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าในชีวิตของคุณได้มากขึ้น 3. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง หลายคนที่กลัวการอยู่คนเดียว มักจะรู้สึกว่าตัวเองขาดความมั่นใจ แต่ในความจริงแล้ว การที่เราสามารถอยู่คนเดียวและดูแลตัวเองได้อย่างดีนั้น จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้อย่างมาก เพราะเมื่อคุณต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง คุณจะได้เรียนรู้การตัดสินใจ และรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแน่นอน 4. สร้างความเป็นอิสระทางจิตใจ การอยู่คนเดียวจะทำให้คุณได้เรียนรู้ที่จะเป็นอิสระทางจิตใจ เมื่อไม่มีคนอื่นมาคอยแทรกแซงหรือให้คำแนะนำในชีวิตประจำวัน คุณจะต้องพึ่งพาตัวเองในการตัดสินใจและการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความเป็นอิสระทางจิตใจที่มากขึ้น คุณจะสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้ด้วยตัวเอง และสามารถเลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น 5. พัฒนาความสามารถในการจัดการเวลา …

หลอกตัวเองด้วยการหัวเราะ ทำยังไงได้บ้าง?

การหลอกตัวเองด้วยการหัวเราะเป็นเทคนิคหนึ่งที่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอารมณ์และลดความเครียดได้ โดยการใช้ การหัวเราะ เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นสมองให้ปล่อยสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น เช่น เอนดอร์ฟิน และ เซโรโทนิน ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยบรรเทาความเครียดและอารมณ์ที่ไม่ดีได้ ใครที่กำลังเศร้าอยู่ลองหัดแบบนี้ดูนะครับ อย่างน้อยจะช่วยให้ร่างกายเราช่วยหลั่งสารบรรเทาความเศร้าออกมาได้ ถึงแม้เราจะไม่อยากหัวเราะ แต่ก็ยังมีวิธีการหลอกตัวเองที่สามารถทำได้ครับ วิธีหลอกตัวเองด้วยการหัวเราะ ฝึกหัวเราะแบบ “ฮาฮา” (Laughter Yoga) Laughter Yoga เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจากการฝึกหัดหัวเราะโดยไม่ต้องอาศัยเหตุผลหรือความสนุกสนานจริงๆ เพียงแค่เริ่มต้นจากการทำท่าทางหรือเสียงที่เหมือนกับการหัวเราะ เช่น “ฮา ฮา ฮา” หรือ “ฮิ ฮิ ฮิ” และทำซ้ำๆ แม้จะเริ่มจากการหัวเราะที่ไม่ได้เกิดจากอารมณ์จริงๆ สมองของคุณจะเริ่มรับรู้และกระตุ้นการปล่อยสารเคมีที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น หัวเราะแบบ “ค่อยๆ เพิ่ม” เริ่มต้นจากการทำเสียงหัวเราะเบาๆ เช่น “ฮา…ฮา…” โดยตั้งใจทำให้มันฟังดูเป็นการหัวเราะแบบธรรมชาติ หลังจากนั้นเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการหัวเราะที่ดังขึ้น การที่ร่างกายได้ทำการเคลื่อนไหวและปล่อยเสียงหัวเราะจะช่วยกระตุ้นสมองให้รับรู้ว่า “ตอนนี้เราอยู่ในอารมณ์ดี” ใช้การดูคลิปตลกหรือการฟังเสียงหัวเราะ   หากรู้สึกยากที่จะเริ่มต้นหัวเราะเอง ลองดูคลิปตลกหรือฟังเสียงหัวเราะจากคนอื่น การเห็นหรือได้ยินคนอื่นหัวเราะสามารถช่วยกระตุ้นให้คุณหัวเราะตามได้ แม้ว่าจะเริ่มจากการฝืนใจ แต่สมองจะเริ่มปล่อยสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น หรือจะเลือกเดิมพันเกมต่างๆ เช่น หวยไว 1 …